จากไปให้คนคิดถึง ! เอแด็น อาซาร์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม โบกมือลา เชลซี เพื่อไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ในฤดูกาลหน้าเรียบร้อยแล้ว หลังมีการยืนยันชัดเจนจากทั้งสองสโมสรในเรื่องการย้ายทีม และต่อจากนี้ไปสาวก "สิงห์บลูส์" จะไม่ได้เห็นนักเตะขวัญใจของพวกเขาในชุด "สีน้ำเงิน" อีกต่อไป

อาซาร์ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลเชลซีเทิดทูนที่สุด แม้ในช่วงเวลาที่นักเตะมีข่าวเรื่องย้ายทีม แต่เขาไม่เคยทำตัวงอแงร้องขอบอร์ดบริหารให้ปล่อยตัว แต่ยังคงมุมานะตั้งหน้าตั้งตาเล่นเพื่อทีมอย่างเต็มที่ จนสามารถนำความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก มาสู่ถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นรายการสุดท้ายก่อนที่จะย้ายทีม

ค่าตัวจำนวนค่าตัวเบื้องต้น 100 ล้านยูโร (ราย 3,600 ล้านบาท) และอาจจะเพิ่มขึ้นไปถึง 140 ล้านยูโร (ราว 5,040 ล้านบาท) ในอนาคต ถือว่าเป็นการตอบแทนที่งดงามสำหรับต้นสังกัดที่ดูแล อาซาร์ เป็นอย่างดี และอย่างน้อยก็ทำให้สโมสรได้มีเงินเพื่อใช้ในการหานักเตะตัวใหม่มาเสริมแกร่งเพื่อทดแทนการสูญเสียจอมทัพคนสำคัญ แม้อาจจะเทียบไม่ได้ก็ตามที

การจากลากันครั้งนี้เต็มไปด้วยมิตรภาพระหว่าง อาซาร์, บอร์ดบริหาร และแฟนบอล จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สาวก "สิงโตน้ำเงินคราม" ไม่มีใครแสดงอาการเกลียดชังเลยในทางกลับกันยังรู้สึกขอบคุณที่นักเตะช่วยทีมอย่างเต็มที่ โดยไม่มีอาการวอกแวกเรื่องอนาคต

เมื่อจากกันแล้วก็ต้องจากกันด้วยดี โดย อาซาร์ ได้ออกมาเปิดใจถึงการย้ายทีม และขอบคุณสำหรับช่วงเวลาที่แสนงดงามในฐานะนักเตะเชลซี

"ถึงเพื่อนๆ และครอบครัวเชลซีของผม ตอนนี้พวกคุณรู้แล้วว่าผมจะย้ายไปเล่นกับ เรอัล มาดริด ไม่มีอะไรที่เป็นความลับเพราะนี่คือฝันของผมที่จะได้เล่นให้กับพวกเขานับตั้งแต่ตอนที่ผมยังเป็นเด็กวัยรุ่นตอนที่ยิงประตูแรกได้ ผมพยายามที่จะทำผลงานให้ดีที่สุดโดยที่ไม่ทำให้ตัวเองหรือทีมต้องเสียสมาธิในช่วงเวลาที่ยากลำบากกับการมีข่าวลือ และตกเป็นที่สนใจของสื่อ โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนหลังสุด"

"ตอนนี้ทั้งสองสโมสรได้บรรลุข้อตกลงกันแล้ว ผมหวังว่าพวกคุณจะเข้าใจว่าผมต้องการก้าวเดินต่อไปกับบทบาทใหม่ ก็เหมือนกับทุกๆ คนที่คงจะทำเมื่อคุณมีโอกาสที่จะได้ไล่ตามความฝันของคุณ การที่ต้องอำลาเชลซี เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญและยากลำบากที่สุดในอาชีพของผม ตอนนี้ผมอยากที่จะทำให้ทุกอย่างชัดเจน ผมรักทุกๆ ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับ เชลซี และไม่มีครั้งใดเลยที่ผมพิจารณาที่จะทิ้งทีมเพื่อไปเล่นให้กับสโมสรอื่นเลย"

"ผมอายุเพียงแค่ 21 ปีตอนที่ย้ายมาอยู่กับทีม ดังนั้นผมเติบโตในฐานะคนๆ หนึ่งและนักฟุตบอลร่วมกับพวกคุณทุกคน พวกคุณช่วยผมให้ก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมชาติเบลเยียม แน่นอนว่ามีช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นกันทั้งสำหรับทีม และสำหรับตัวผม นี่แหละฟุตบอลอาชีพ"

"อย่างไรก็ตาม ฟุตบอลสำหรับผมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด การได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง และสนุกกับทุกๆ ช่วงเวลา เราโชคดีที่ได้เล่นในเกมที่งดงาม และนี่คือคำแนะนำของผมเวลาที่มีคนถามเรื่องเคล็บลับจากโค้ช ! ลงไปเล่นฟุตบอล และสนุกกับมัน ! แม้ในช่วงเวลาที่เราเล่นไม่ดี ผมพยายามทำผลงานของผมให้ดีที่สุด และสิ่งนี้ต้องขอบคุณแรงสนับสนุนรวมทั้งกำลังใจที่น่าเหลือเชื่อจากพวกคุณ"

"สปริตนักสู้, แรงปรารถนา และการไม่ยอมแพ้เป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมของที่สโมสรเชลญี และมันจะพุ่งออกมาจากพวกคุณโดยตรง เวลาที่ผมคิดย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่แสนพิเศษตอนที่สวมเสื้อเชลซี เราโชคดีมากๆ ที่คว้าชัยชนะได้มากกว่าความพ่ายแพ้"

"ใครก็ตามที่รู้จักผมจะเข้าใจว่าไม่ใช่แค่ผมที่คว้ารางวัลเท่านั้น ผมมักจะพูดทุกครั้ง และทุกๆ รางวัลทั้งในฐานะทีมและรางวัลส่วนตัวเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อที่สุด วันหนึ่งผมจะนั่งดื่มเบียร์พูดคุยและหัวเราะด้วยความภาคภูมิใจเกี่ยวกับจังหวะที่ผมยิงจุดโทษพลาดรวมทั้งการคว้าแชมป์ลีกในแมตช์พบ พาเลซ (ชนะ 1-0) หรือประตูต่างๆ ในเกมพบ ท็อตแน่ม, อาร์เซน่อล รวมทั้ง ลิเวอร์พูล"

"ความทรงจำเหล่านี้ยังคงชัดเจน เพราะบรรยากาศ และโอกาสต่างๆ ที่พวกคุณได้สร้างขึ้นมา ผมหวังว่าพวกคุณจะจดจำสิ่งเหล่านี้ด้วยความภาคภูมิใจตลอดไป ตัวผมก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการออกทัวร์ที่สหรัฐฯ หรือที่ซันเดอร์แลนด์ในคืนวันอังคาร การเดินทางไป รัสเซีย วันพฤหัสบดี หรือแน่นอนว่าทุกๆ เกมที่ เดอะ บริดจ์ (สแตมฟอร์ด บริดจ์) พวกคุณให้การสนับสนุนผมเสมอ และคอยกระตุ้นผมให้เล่นอย่างที่ผมควรจะเล่น และสนุกกับตัวเองผมหวังว่าพวกคุณจะมีความสุขเช่น"

"เรามีนักเตะชั้นยอดมากมาย และผมมีช่วงเวลาที่แสนภาคภูมิใจที่สุดที่ได้เป็นส่วนหนึ่งร่วมกับพวกเขา เราได้แชมป์ เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ, ยูโรปา ลีก และ พรีเมียร์ลีก ร่วมกันเฉกเช่นการเป็นครอบครัวเดียวกัน ทุกๆ แชมป์มีความพิเศษในตัวมันเอง และแน่นอนว่าเกมที่บากู (นัดชิง ยูโรปา ลีก) เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนมันเป็นวิธีที่เพอร์เฟกต์ในการปลดเปลื้องฤดูกาลที่แสนยากลำบากหลังเกมฟุตบอลโลก"

"เชลซี และโดยเฉพาะแฟนบอลเชลซี จะยังคงเป็นสิ่งที่พิเศษที่สุดสำหรับผม สำหรับในฤดูกาลหน้าผมจะคอยเฝ้าดูผลการแข่งขันของพวกเขาเป็นอันดับแรก ผมหวังว่าเราจะมีโอกาสได้จับสลากมาพบกันในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า และทุกๆ ซีซั่น ดังั้นเราจะได้พบกับอีกครั้ง"

"ก่อนที่ผมจะไป สิ่งสุดท้ายที่ผมต้องการขอบคุณก็คือทุกๆ คนที่สโมสรสำหรับความพยายามที่สุดยอดของพวกเขา สำหรับอดีตเพื่อนร่วมทีมของผมทุกคน เราได้กล่าวคำอำลากันในช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่ผมต้องขอบคุณมิสเตอร์ (โรมัน) อบราโมวิช และบอร์ดบริหารของเขาที่ช่วยเหลือผมไม่ใช่แค่หนึ่งความฝันแต่เป็นสองความฝัน"

"ฝันแรกการได้กลายเป็นนักเตะเชลซี และวันนี้สำหรับฝันที่สอง การได้กลายเป็นนักเตะที่เรอัล มาดริด ผมขออวยพรให้พวกคุณทุกคนได้พบกับสิ่งที่ดีที่สุด จาก เอแด็น"

สยามสปอร์ต