"สิงห์บลูส์" เชลซี ปิดฉากฤดูกาล 2018/19 ลงไปแบบยิ่งใหญ่และชื่นมื่น หลังผงาดคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก มาครองเป็นสมัยที่สอง ด้วยการไล่กระซวก อาร์เซน่อล ทีมคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน 4-1 ในเกมรอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันพุธที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา และนี่คือเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจหลังเกมที่สนาม โอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน

- เป็น "ออล-อิงลิช ไฟนัลส์" ก็จริง แต่นักเตะ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีมที่ลงสนามมีผู้เล่นชาวอังกฤษแค่คนเดียวเท่านั้นคือ เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส ของทางฝั่ง "ไอ้ปืนใหญ่"

- นี่คือเกมยุโรปนัดที่ 136 ของ ปีเตอร์ เช็ก นายประตูจอมเก๋า อาร์เซน่อล และนี่คือเกมสุดท้ายของเจ้าตัวในอาชีพนักฟุตบอลด้วย โดยเกมยุโรปนัดแรกของ เช็ก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน ปี 2001 ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวช่วย สปาร์ต้า ปราก บุกไปเสมอ บาเยิร์น มิวนิค 0-0 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

- อาร์เซน่อล แพ้รวดในเกมรอบชิงฯ ถ้วยยุโรป 4 ครั้งหลังสุด (คัพ วินเนอร์ส คัพ ปี 1995, ยูฟ่า คัพ ปี 2000, แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2006 และ ยูโรปา ลีก 2019)

- เกมนี้ เมซุต โอซิล จอมทัพ อาร์เซน่อล สร้างโอกาสได้แค่ครั้งเดียว จาก 77 นาทีที่อยู่ในสนาม

- เชลซี เป็นทีมแรกในศตวรรษที่ 21 ที่ได้แชมป์ ยูโรปา ลีก มาครอง โดยที่ไม่แพ้ใครเลยตลอดเส้นทาง

(WWWWWDWWWWWWDDW)

- ในศตวรรษที่ 21 มีแค่ 3 ทีมเท่านั้น ที่ได้แชมป์ถ้วยยุโรป โดยที่ไม่แพ้ใครตลอดเส้นทาง ซึ่งนั่นก็คือ บาร์เซโลน่า (แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2006), แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2008) และ เชลซี (ยูโรปา ลีก 2019)

- กุนซือชาวอิตาเลียน ทั้งสามคนที่พา เชลซี เข้าถึงรอบชิงฯ ถ้วยยุโรป ต่างจบลงด้วยการคว้าแชมป์ทั้งหมด (จานลูก้า วิอัลลี่, แชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ 1998 / โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ, แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก 2012 และ เมาริซิโอ ซาร์รี่, แชมป์ ยูโรปา ลีก 2019)

- นี่คือแชมป์ใหญ่ รายการแรกในอาชีพกุนซือของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ วัย 60 ปี

- เอแด็น อาซาร์ แย้มแล้วว่า นี่คือเกมสุดท้ายของตัวเองกับ เชลซี และนี่คือสถิติของเจ้าตัวภายใต้ยูนิฟอร์ม "สิงห์บลูส์" : ลงเล่น 352 เกม, ทำ 110 ประตู กับ 81 แอสซิสต์ พร้อมกับคว้าแชมป์ 6 รายการ (พรีเมียร์ลีก 2 สมัย ปี 2015 กับ 2017, เอฟเอ คัพ 1 สมัย ปี 2018, ลีก คัพ 1 สมัย ปี 2015 และ ยูโรปา ลีก 2 สมัย ปี 2013 กับ 2019)

- อาซาร์ ยิง อาร์เซน่อล ไปแล้วทั้งสิ้น 7 ประตู ทำให้ "ไอ้ปืนใหญ่" กลายเป็นที่เจ้าตัวชอบยิงมากที่สุด

- เปโดร กองหน้า เชลซี เป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ลูกหนังที่ได้แชมป์เหล่านี้ครบทุกรายการ : เวิลด์ คัพ (กับ ทีมชาติสเปน), ยูโร (กับ ทีมชาติสเปน), แชมเปี้ยนส์ ลีก (กับ บาร์เซโลน่า), ยูโรปา ลีก (กับ เชลซี), ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ (กับ บาร์เซโลน่า) และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ (กับ บาร์เซโลน่า)

- นอกจากนี้ เปโดร ยังเป็นผู้เล่นรายที่ห้า ที่ทำประตูได้ในเกมรอบชิงฯ ทั้งในถ้วย ยูโรเปี้ยน คัพ / แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูฟ่า คัพ / ยูโรปา ลีก ต่อจาก อลัน ซิมอนเซ่น, ดมิทรี อเลนิเชฟ, เอร์นาน เครสโป และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด

- โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ หัวหอก เชลซี เป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำประตูใส่ทีมเก่าได้ในเกมรอบชิงฯ ยูฟ่า คัพ / ยูโรปา ลีก นับตั้งแต่ ดิโน่ บาจโจ้ ที่ทำทั้งสองประตูช่วย ปาร์ม่า พิชิต ยูเวนตุส 2-1 (สกอร์รวมสองนัด) เมื่อปี 1995

- ชิรูด์ คว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดประจำทัวร์นาเมนต์ โดยกระทุ้งไปทั้งสิ้น 11 ประตู

- Subinho -

สยามสปอร์ต