เกมที่ เชลซี เปิดบ้านเสมอกับ เบิร์นลีย์ 2-2 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ความวุ่นวายหลังสิ้นเสียงนกหวีดของม้านั่งสำรองของทั้งสองฝั่ง

ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ "สิงห์บลูส์" ทำได้แค่เบ่งแต้มกับเบิร์นลีย์ ซึ่งหลังเกมพวกเขาออกมาบ่นว่าทีมเยือนนั้นมาเล่นแบบถ่วงเวลาเกินไป แถมผู้ตัดสินก็ไม่ยอมทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี

ฝั่งเชลซีนั้นแสดงอาการตั้งแต่ในเกมแล้ว ท้ายเกมกุนซือ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่ถึงกับต้องเดินออกจากเส้นเทคนิคไปสั่งลูกทีมว่าอย่าเสียเวลาหาเรื่องด้วย ก่อนที่เขาจะโดน เควิน เฟรนด์ ไล่ออกจากม้านั่งสำรอง

เรื่องราวไม่จบแค่นั้นหลังสิ้นเสียงนกหวีดมีเหตุการณ์ความวุ่นวายที่ข้างสนามทีมงานและนักเตะของทั้งสองฝั่งมีปากเสียงร่างกายปะทะกันเล็กน้อย

หนึ่งในนั้นคืออันโตนิโอ รูดิเกอร์ กองหลังเจ้าถิ่นที่เกมนี้ไม่มีชื่อเพราะอาการบาดเจ็บ มีภาพออกกล้องถ่ายทอดสดว่าเขาโวยอยู่กับ บิลลี่ เมอร์เซอร์ โค้ชผู้รักษาประตูเบิร์นลีย์

มัสซิโม เนนซี่ โค้ชผู้รักษาประตูเชลซี กับ เปาโล แบร์เตลลี่ โค้ชฟิตเนส ก็พัวพันอยู่ตรงนั้นด้วย ดูเหมือนทั้งคู่จะหงุดหงิดกับเมอร์เซอร์เช่นเดียวกัน

หตุการณ์ดังกล่าวบานปลายเข้าไปถึงอุโมงค์ทางเดินเข้าห้องแต่งตัว ซึ่งหลังเกมชอน ไดช์ กุนซือเบิร์นลีย์ ถูกถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนั้น เขาตอบว่า "ผมไม่รู้ว่าอะไรที่อนุญาตให้พูดได้… manbags handbags, bumbags? (เขาเล่นคำกับคำว่า scumbag ที่เป็นคำด่า) อะไรสัก Bags นี่แหละในอุโมงค์"

"ผมไม่เห็นอะไรนักหรอก ผมมัวแต่ปรบมือยินดีกับแฟนๆ"

ด้านจานฟรังโก้ โซล่า บอกหลังเกมว่าม้านั่งสำรองของเบิร์นลีย์นั้นพูดบางอย่างไม่เหมาะสมกับซาร์รี่ ซึ่งพวกเขาไม่พอใจกับเรื่องนั้นอย่างมากและอาจยื่นเรื่องถึงสมาคมฟุตบอลอังกฤษ

แหล่งข่าวของ ESPN ระบุว่า คำพูดหนึ่งที่มาจากม้านั่งสำรองของเบิร์นลีย์คือ "ไอ้เลี่ยนกาก" ซึ่งทำให้ฝั่งเชลซีไม่พอใจอย่างมาก อันเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ซาร์รี่ผิดหวังกับสิ่งที่ตนเองเจอและไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับนักข่าวหลังเกม

www.soccersuck.com