ตอนนี้เชื่อว่า เมาริซิโอ ซาร์รี่ ผู้จัดการทีม เชลซี คงต้องลุ้นแทบทุกวินาทีว่าจะยังได้อยู่ในตำแหน่งต่อไปรึเปล่า หลังจากที่เพิ่งพาทีมออกไปแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบเละเทะ 0-6 ถึงสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

เดิมที ซาร์รี่ ก็มีอนาคตที่ไม่แน่นอนมาพักหนึ่งแล้ว และความปราชัยในนัดล่าสุดก็ทำให้แฟนบอล เชลซี บางคนเรียกร้องให้ทีมรักรีบปลดเขาโดยด่วน ส่วนเรื่องจะเอาใครมาคุมทีมก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ถ้าพิจารณาด้วยความใจเย็นแล้วนั้น จะเห็นว่า ซาร์รี่ ยังไม่ควรจะต้องตกงานในตอนนี้ และวันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่าสาเหตุที่เขาควรจะได้อยู่ในตำแหน่งต่อไปมันมีอะไรบ้าง

- ผลงานโดยรวมไม่ได้แย่

แน่นอน การโดน แมนฯ ซิตี้ รัวใส่ถึงครึ่งโหลถือเป็นผลการแข่งขันที่น่าอับอายเกินกว่าจะทนไหว ถ้าทีมที่แพ้ย่อยยับขนาดนี้เป็นทีมในกลุ่มหนีตกชั้นก็ว่าไปอย่าง แต่นี่คือ เชลซี หนึ่งในทีมชั้นนำของประเทศ และประสบความสำเร็จมากพอตัวในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่นับเกมนัดล่าสุดแล้วล่ะก็ มันก็จะเห็นว่าที่จริง เชลซี ไม่ได้มีผลงานโดยรวมที่แย่อะไรเลย โอเค การแพ้ บอร์นมัธ 0-4 อาจจะน่าผิดหวัง ขณะที่การพ่าย อาร์เซน่อล กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้แฟนบอลของทีมเซ็งพอตัว แต่เกมกับ "ไอ้ปืนใหญ่" และ "ไก่เดือยทอง" เป็นเกมที่ผลการแข่งขันสามารถออกมาได้ทุกหน้าอยู่แล้ว

ขณะเดียวกัน การแพ้เละเทะในนัดล่าสุดมันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะหมดลุ้นท็อปโฟร์แต่อย่างใด ในตอนนี้ เชลซี ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมในพื้นที่ดังกล่าวเพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น นั่นหมายความว่าพวกเขายังมีลุ้นติดท็อปโฟร์อยู่ แถมเจ้าตัวยังพาทีมเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศของ คาราบาว คัพ ได้ด้วยซ้ำ

- ยังไม่ได้สร้างทีมของตัวเองแบบจริงจัง

แน่นอน การรั้นที่จะให้ จอร์จินโญ่ กองกลางที่เป็นลูกรักจาก นาโปลี ได้ลงเล่นในตำแหน่งโฮลดิ้งมิดฟิลด์ แล้วโยก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ไปด้านข้างมากขึ้น ถือเป็นความผิดขั้นร้ายแรงของ ซาร์รี่ เพราะเดิมที ก็องเต้ เล่นได้โดดเด่นสุดๆ ในบทบาทนี้

อย่างไรก็ตาม ต้องพูดกันตามตรงว่า ซาร์รี่ ยังไม่ได้มีโอกาสสร้างทีมของตัวเองแบบเต็มที่เลย เพราะเขาเพิ่งคว้านักเตะที่ "ตัวเองต้องการ" จริงๆ มาร่วมทีมได้เพียง 2 คนเท่านั้น นั่นคือ จอร์จินโญ่ กับ กอนซาโล่ อิกวาอิน

เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูชาวสแปนิช อาจจะทำผลงานได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่อย่าลืมว่าแรกเริ่มเดิมที เชลซี ไม่ได้คิดที่จะซื้อเขามาร่วมทีมเลย สาเหตุที่ "สิงโตน้ำเงินคราม" ต้องยอมเสียเงินถึง 72 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,952 ล้านบาท) เพื่อเป็นค่าตัวของเขามันเป็นเพราะ ติโบต์ กูร์กตัวส์ อดีตมือ 1 ของทีมกระสันย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ต่างหาก ส่วน มาเตโอ โควาซิช ที่ได้มาจาก เรอัล ในสัญญายืมตัว ก็เป็นเพียงเหมือนตัวแถมเท่านั้น

- บอลบุกที่ผู้บริหารต้องการ

เป็นที่เชื่อกันว่าสาเหตุที่ เชลซี ตัดสินใจเอา ซาร์รี่ เข้ามาคุมทีม เป็นเพราะอยากให้ทีมมีสไตล์การเล่นเกมบุกที่น่าตื่นตาตื่นใจ เหมือนสมัยที่เขาทำได้ยอดเยี่ยมกับ นาโปลี เพราะก่อนหน้านี้ เชลซี มีภาพลักษณ์ว่าเป็นทีมจอมเล่นเกมรับ ไม่ว่าจะเป็นทั้งยุค โชเซ่ มูรินโญ่ และ อันโตนิโอ คอนเต้

ถ้าเกิด "กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว" แล้วล่ะก็ การทำให้ เชลซี หันมาเล่นเกมรุกเป็นหลักก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ง่ายๆ ในฤดูกาลเดียวเช่นกัน ซาร์รี่ จำเป็นต้องใช้เวลาสักหน่อยในการวางรากฐานสไตล์ของเขา

แกรี่ เนวิลล์ อดีตยอดดาวเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้ได้ดิบได้ดีกับการเป็นกูรูก็บอกเหมือนกันว่าถ้าผู้บริหารของ เชลซี อยากให้ทีมมีสไตล์การเล่นต่างไปจากเดิม พวกเขาก็จะรีบปลด ซาร์รี่ ไม่ได้เป็นอันขาด เพราะมันจะเป็นการทำลาย หรือระงับกระบวนการที่ทำอยู่ จนสุดท้ายโปรเจกต์ที่วาดฝันมาซะดิบดีก็ต้องพังทลายลงในที่สุด

สยามสปอร์ต