เจดอน ซานโช่ ประเดิมสวยจัดแอสซิสต์ให้ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู ซูเปอร์ซับลงมาซัดชัยพา เชลซี บุกมาปราบบอร์นมัธ 1-0

เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ที่ 4 คู่สุดท้ายเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา บอร์นมัธ ที่ยังไม่แพ้ทีมใด มี 5 คะแนน (ชนะ 1 เสมอ 2) เปิดบ้านรับมือ เชลซี ที่มี 4 แต้ม (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1)

เริ่มเกมมาได้แค่ 4 นาที บอร์นมัธ เกือบพังประตูขึ้นนำหลัง มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ ตะบันไกลนอกกรอบเต็มแรงบอลพุ่งหนีมือ โรเบิร์ต ซานเชซ ไปแล้วแต่ไปชนสามเหลี่ยมอย่างน่าเสียดาย

เจ้าบ้านมาดุโอกาสลุ้นประตูมีมากกว่าทีมเยือน นาที 21 มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ ได้โอกาสซัดเน้นๆ ในกรอบแต่บอลยังไม่ผ่านมือ โรเบิร์ต ซานเชซ

นาที 36 เจ้าบ้านมาได้ลูกที่จุดโทษหลัง เวสเล่ย์ โฟฟาน่า คืนหลังให้ ซานเชซ แต่โดน เอวานิลซอน ฉกบอลไปได้ก่อนโดน ซานเชซ ทำฟาวล์ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ทว่า เอวานิลซอน ดันยิงไม่เข้าไปโดน โรเบิร์ต ซานเชซ แก้ตัวพุ่งเซฟไม่ให้ทีมเสียประตู จบครึ่งแรก ยังไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง เชลซี เปลี่ยนเอา เจดอน ซานโช่ ลงมาเล่นแทน เปโดร เนโต้

นาที 58 บอร์นมัธ โอกาสจะแจ้งยังมีมากกว่า และน่าจะได้ประตูขึ้นนำหลัง ไรอัน คริสตี้ ซัดจากแถวสองบอลพุ่งไปติดปลายนิ้ว ซานเชซ ก่อนโดนเสาออกหลังไป

ช่วงท้ายเกม นาที 86 กลายเป็น เชลซี ที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ซานโช่ จ่ายบอลเข้าในกรอบให้ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู พลิกบอลเข้าไปซัดหนีมือ มาร์ค เทเวอร์ส เข้าไป

จบเกม เชลซี บุกมาเอาชนะ บอร์นมัธ หวุดหวิด 1-0 "สิงห์บลูส์" มีเพิ่มเป็น 7 คะแนน ขึ้นรั้งอันดับ 7 ส่วน บอร์นมัธ แพ้นัดแรกมี 5 แต้มรั้งอันดับ 11 ของตาราง

รายชื่อ 11 ผู้เล่นทั้งสองทีม

บอร์นมัธ (4-2-3-1) : มาร์ค เทรเวอร์ส - อดัม สมิธ, อิลลีย่า ซาบาร์นี่, มาร์กอส เซเนซี่, มิลอส เคอร์เคซ - ลูอิส คุก, ไรอัน คริสตี้ - อองตวน เซเมนโย่, จัสติน ไคลเวิร์ต, มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ - เอวานิลซอน

เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ - อักแซล ดิซาซี่, เวสเล่ย์ โฟฟาน่า, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า - เรนาโต้ เวก้า, มอยเซส ไกเซโด้ - โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, เปโดร เนโต้ - นิโกลัส แจ็คสัน

สยามกีฬา