27
ธ.ค.
ต้องเน้น! เชลซี เร่งฟอร์มกู้ชัย "สเตอร์ลิง" ตัวจริงลุ้นยิง บอร์นมัธ
เชลซี ของนายใหญ่ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ผลงานไม่โดนใจรั้งอันดับ 9 ของตารางความพร้อมขาดผู้เล่นหลายรายแนวรุกใช้ ราฮีม สเตอร์ลิง นำทัพ ต้อนรับ บอร์นมัธ ทีมอันดับ 14 ที่กุนซือ แกรี่ โอนีล ขอลุ้นพาทีมอยู่รอดวาง โดมินิก โซลันกี้ เป็นตัวทีเด็ด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอังคารที่ 27 ธันวาคมนี้
ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2565
เชลซี (9) - บอร์นมัธ (14)
ถ่ายทอดสด : true premier football hd 1 เวลา : 00.30
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เชลซี ปลดล็อกคว้าชัยได้เป็นเกมแรกในรอบ 5 เกมรวมทุกรายการหลังจากที่ถล่มเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด 5-1 ในเกมกระชับมิตรแบบปิดนัดล่าสุด ส่วนเกมลีกนัดล่าสุดออกไปพ่ายให้กับ นิวคาสเซิ่ล 0-1 ทำให้เจ้าบ้านมี 21 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 14 เกมในฤดูกาลนี้
ความพร้อมในเกมนี้ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ ยังคงไม่สามารถใช้งาน รูเบน ลอฟตัส-ชีค, เบน ชิลเวลล์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า และ อาร์มานโด้ โบรย่า ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน รวมไปถึง ฮาคิม ซีเย็ค (โมร็อกโก) และ มาเตโอ โควาชิซ (โครเอเชีย) ที่จะได้พักหลังเพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจการรับใช้ทีมชาติในศึกฟุตบอลโลก 2022
แต่มีข่าวดีคือ รีซ เจมส์ กลับคืนสู่ทีมเป็นที่เรียบร้อยหลังจากที่ได้ลงเล่นในเกมกับ เดอะ บีส์ เป็นเวลา 65 นาทีด้วยกัน เช่นเดียวกันกับ เมสัน เมาท์ และ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า อาจหายจากโรคเดี้ยงกลับมาช่วยทีมได้ทันเวลา โดยมีเพียงแค่ในรายของ เมาท์ ที่น่าจะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง
ส่วนการจัดทัพคาดว่า พ็อตเตอร์ จะมาในระบบ 3-4-3 โดยที่ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า พร้อมกับมี เมสัน เมาท์ และ ราฮีม สเตอร์ลิง ขนาบข้างในพื้นที่ริมเส้นขวา-ซ้ายตามลำดับ
ขณะที่ในแดนกลางเป็นหน้าที่ของ จอร์จินโญ่ และ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ คอยเดินเกมผนึกกำลังร่วมกับ มาร์ค กูกูเรย่า และ รีซ เจมส์ ในตำแหน่งวิงแบ็กซ้าย-ขวา ทางด้านตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กใช้งาน เทรโวห์ ชาโลบาห์, ติอาโก้ ซิลวา และ คาลิดู คูลิบาลี่ คุมหลังบ้านอยู่ด้านหน้าผู้รักษาประตูอย่าง เอดูอาร์ เมนดี้ ที่ทำหน้าที่เฝ้าเสา
บอร์นมัธ แพ้เป็นเกมแรกในรอบ 3 เกมรวมทุกรายการหลังจากที่ออกไปพ่ายให้กับ นิวคาสเซิ่ล 0-1 ในเกม คาราบาว คัพ อังกฤษ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนเกมลีกนัดล่าสุดเปิดบ้านถล่มเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-0 ทำให้ทีมเยือนมี 16 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 15 เกมในฤดูกาลนี้
สภาพทีมในเกมนี้ แกรี่ โอนีล ผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ ยังคงไม่มี เดวิด บรู๊คส์ และ เนโต้ ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงานจนต้องพักรักษาตัวจนถึงช่วงปีใหม่ นอกจากนี้ยังต้องเช็กความฟิตของ เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา, มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ และ ลอยด์ เคลลี่ รวมไปถึงผู้เล่นจำนวน 8-10 คนที่มีอาการป่วยก่อนเกมกับ สาลิกาดง ซึ่งประกอบด้วย เบน เพียร์สัน, โจ รอธเวลล์ และ ไรอัน เฟรเดอริคส์ อีกด้วย
ส่วนการจัดทัพคาดว่า โอนีล จะมาในระบบ 4-4-2 โดยที่ โดมินิก โซลันกี้ จะได้ผนึกกำลังในแดนหน้าร่วมกับ ฟิลิป บิลลิ่ง พร้อมกับมี ไรอัน คริสตี้ และ ไจดอน แอนโทนี่ ขนาบข้างในพื้นที่ริมเส้นขวา-ซ้ายตามลำดับ ขณะที่ในแดนกลางเป็นหน้าที่ของ ลูอิส คุ้ก และ เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา คอยเดินเกม ทางด้านตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กใช้งาน คริส เมแฟม และ มาร์กอส เซเนซี่ คุมหลังบ้านอยู่ด้านหน้าผู้รักษาประตูอย่าง มาร์ค ทราเวอร์ส ที่ทำหน้าที่เฝ้าเสา
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (3-4-3) : เอดูอาร์ เมนดี้ - เทรโวห์ ชาโลบาห์, ติอาโก้ ซิลวา, คาลิดู คูลิบาลี่ - รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, มาร์ค กูกูเรย่า - เมสัน เมาท์, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง, ราฮีม สเตอร์ลิง
บอร์นมัธ (4-4-2) : มาร์ค ทราเวอร์ส - อดัม สมิธ, คริส เมแฟม, มาร์กอส เซเนซี่, จอร์แดน เซมูร่า - ไรอัน คริสตี้, ลูอิส คุ้ก, เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา, ไจดอน แอนโทนี่ - ฟิลิป บิลลิ่ง, โดมินิก โซลันกี้
ผู้ตัดสิน : ไซม่อน ฮูเปอร์
สยามกีฬา