3
เม.ย.
แหย่รังผึ้ง! เชลซีนำก่อนโดนเบรนท์ฟอร์ดรัว4เม็ดอัดพังคาบ้าน-เอริคเซ่นยิงด้วย
อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ตะบันสุดสวย พา เชลซี นำก่อนช่วงต้นครึ่งหลัง แต่ เบรนท์ฟอร์ด โชว์ฮึดรัว 4 ประตูรวดโดย คริสเตียน เอริคเซ่น ซัดด้วย พา "เดอะ บีส์" บุกถล่มสุดมันส์ รั้งที่ 14 พร้อมทำ "สิงห์บลูส์" พ่ายหนแรกรอบ 7 เกมรั้งที่ 3
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2565
เชลซี 1-4 เบรนท์ฟอร์ด
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2565 ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ระหว่าง "สิงห์บลูส์" เชลซี ที่ชนะในลีกมา 5 นัดติด อันดับ 3 ของตาราง เปิดรังพบ "เดอะ บีส์" เบรนท์ฟอร์ด ทีมอันดับ 15 ของตาราง
เริ่มเกมมาในนาทีที่ 6 เอดูอาร์ เมนดี้ พยายามจะเตะเปิดเกมแต่เตะบอลไม่ดีบอลไปเข้าทาง ไอแวน โทนี่ย์ ตัดสินใจยิงไกลจากหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลหลุดเสาสองออกหลังไป
นาทีที่ 9 คริสเตียน เอริคเซ่น แทงบอลยาวออกไปทางด้านขวาให้ มัดส์ โรเอร์สเลฟ ราสมุสเซ่ ก่อนเลี้ยงบอลขึ้นมาแล้วเปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ บริย็อง เอ็มเบอโม่ จับก่อนพยายามหาช่องยิง แต่ไม่มีมุมได้ยิง จึงจ่ายต่อไปด้านซ้ายให้ ไอแวน โทนี่ย์ ได้จังหวะยิงส่งบอลไปที่เสาแรก แต่โดน เอดูอาร์ เมนดี้ ปัดออกหลังไปได้
เกมดำเนินถึงนาทีที่ 20 ฮาคิม ซิเย็ค พาบอลขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลางมาให้ ติโม แวร์เนอร์ พักบอลลงก่อนจ่ายต่อมาให้ มาร์กอส อลอนโซ่ แล้วเลือกส่งข้ามฝั่งมาให้ เมสัน เม้าน์ท ได้จังหวะยิงไกลจากหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งข้ามคานออกหลังไป
นาทีที่ 31 เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ได้บอลตรงกลางสนามก่อนจ่ายต่อมาให้ รูเบน ลอฟตัส-ชีค พาบอลหลบกองหลังทีมเยือน ก่อนเลี้ยงมาหน้ากรอบเขตโทษ แล้วตัดสินใจยิง บอลพุ่งเข้ากรอบเขตโทษ แต่ยังไปตรงตัว ดาบิด ราย่า รับบอลเอาไว้ได้
ต่อมาในนาทีที่ 40 ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้บอลก่อนมีจังหวะจ่ายต่อมาให้ เมสัน เม้าน์ท ก่อนพาบอลขึ้นหน้ามาแล้วส่งต่อไปให้ ฮาคิม ซิเย็ค ได้จังหวะยิงจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งตรงกรอบแต่ยังเป็น ดาบิด ราย่า ที่พุ่งปัดบอลข้ามคานไปได้
ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้น ไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูได้ หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก เชลซี ยังเสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด 0-0
เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 48 "สิงห์บลูส์" พยายามเซ็ตบอลขึ้นมาก่อนเป็น เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ไหลบอลมาให้ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ได้จังหวะตะบันไกลจากระยะเกือบ 40 หลา ส่งบอลพุ่งผ่านมือ ดาบิด ราย่า เข้าไปอย่าสวยงาม ช่วยให้ เชลซี ออกนำ เบรนท์ฟอร์ด 1-0
หลังจากนั้นในนาทีที่ 50 ทีมเยือนพยายามจะบุกเพื่อทวงประตูคืน ก่อนเป็น ไอแวน โทนี่ย์ ที่ส่งบอลต่อมาให้ บริย็อง เอ็มเบอโม่ พักบอลก่อนแทงออกด้านซ้ายให้ วิตาลี่ ยาเนลท์ ได้จังหวะยิงเต็มข้อส่งบอลผ่านมือ เอดูอาร์ เมนดี้ เข้าประตูไป ช่วยให้ เบรนท์ฟอร์ด ตามตีเสมอ เชลซี 1-1
นาทีที่ 54 "เดอะ บีส์" ได้จังหวะสวนกลับก่อนเป็น มัดส์ โรเอร์สเลฟ ราสมุสเซ่น ที่โหม่งบอลขึ้นหน้าให้ บริย็อง เอ็มเบอโม่ ได้บอลก่อนใช้ความเร็วเลี้ยงบอลขึ้นหน้า แล้วจ่ายเข้ากลางไปหน้าปากประตูในกรอบเขตโทษให้ คริสเตียน เอริคเซ่น ได้ยิงโล่งๆ เข้าประตูไป ช่วยพา เบรนท์ฟอร์ด แซงขึ้นนำ เชลซี 2-1
ต่อมาในนาทีที่ 60 บริย็อง เอ็มเบอโม่ จ่ายบอลต่อมาให้ ไอแวน โทนี่ย์ ก่อนแทงบอลเข้าในกรอบเขตโทษให้ วิตาลี่ ยาเนลท์ หลุดเข้าไปชิพบอลข้ามตัว เอดูอาร์ เมนดี้ เข้าประตูไป ช่วยให้ เบรนท์ฟอร์ด นำห่าง เชลซี 3-1
นาทีที่ 87 จากจังหวะฟรีคิกของทีมเยือน คริสเตียน เอริคเซ่น ส่งบอลมาให้ คริสเตียน นอร์การ์ด ตักบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนเป็น อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ที่ปล่อยให้บอลตกเลยไปถึง โยอัน วิสซ่า ได้ยิงโล่งๆ ส่งบอลเข้าประตูไปพา เบรนท์ฟอร์ด นำห่าง เชลซี 4-1
ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน เชลซี พ่าย เบรนท์ฟอร์ด คารัง 1-4 ส่งผลให้ "สิงห์บลูส์" พ่ายแรกรอบ 7 เกม มี 59 คะแนน รั้งที่ 3 ขณะที่ "เดอะ บีส์" มี 33 แต้ม รั้งที่ 14
รายชื่อนักเตะที่ลงสนามของทั้ง 2 ทีม
เชลซี (4-3-3) : เอดูอาร์ เมนดี้ - เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, มาร์กอส อลอนโซ่ (รีซ เจมส์ น.60)- เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (โรเมลู ลูกากู น.65), รูเบน ลอฟตัส-ชีค, เมสัน เม้าน์ท - ฮาคิม ซิเย็ค, ไค ฮาแวร์ตซ์, ติโม แวร์เนอร์ (มาเตโอ โควาชิช น.64)
เบรนท์ฟอร์ด (4-5-1) : ดาบิด ราย่า - คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์, ปอนตุส ยานส์สัน, อีธาน พินน็อค, ริโก้ เฮนรี่ (เซร์จี้ กานอส น.88)- บริย็อง เอ็มเบอโม่ ( โยอัน วิสซ่า น.85), คริสเตียน เอริคเซ่น, คริสเตียน นอร์การ์ด, วิตาลี่ ยาเนลท์ (มาร์ทิส แยนเซ่น น.82), มัดส์ โรเอร์สเลฟ ราสมุสเซ่น - ไอแวน โทนี่ย์
สยามกีฬา