คืนวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เราจะได้แชมป์แรกของฟุตบอลอังกฤษประจำฤดูกาล 2021/22 กันแล้ว เพราะศึก คาราบาว คัพ (หรือ อีเอฟแอล คัพ / ลีก คัพ) ถึงคิวฟาดแข้งในเกมรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งถือเป็นบิ๊กแมตช์เลยทีเดียว

เนื่องจากเป็นการดวลกันระหว่างสองสโมสรยักษ์ใหญ่เมืองผู้ดีอย่าง ลิเวอร์พูล กับ เชลซี และนี่คือเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจก่อนเกมสำคัญที่ เวมบลีย์ สเตเดี้ยม

เฮด-ทู-เฮด
- นี่จะเป็นหนที่ 8 ที่ ลิเวอร์พูล กับ เชลซี ดวลกันในถ้วย ลีก คัพ และถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ทั้งสองทีมฟาดแข้งกันในเกมรอบชิงฯ โดยหนแรกเกิดขึ้นในปี 2005 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ เหมือนกัน ซึ่งนัดดังกล่าว "สิงห์บลูส์" เป็นฝ่ายได้เฮ หลังต่อเวลาพิเศษเชือด "หงส์แดง" 3-2 ที่ มิลเลนเนียม สเตเดี้ยม กรุงคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์
- 5 ครั้งหลังสุดที่ดวลกันในถ้วย ลีก คัพ นั้น ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี ได้แค่หนเดียว
- หนล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล กับ เชลซี ฟาดแข้งกันที่ เวมบลีย์ สเตเดี้ยม เกิดขึ้นเมื่อปี 2012 โดยเป็นเกม เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ซึ่ง "สิงห์บลูส์" พิชิต "หงส์แดง" ด้วยสกอร์ 2-1
- ที่ผานมา เชลซี กับ ลิเวอร์พูล ฟาดแข้งกันมาแล้ว 189 นัดรวมทุกรายการ โดย "สิงห์บลูส์" เป็นฝ่ายชนะ 65 นัด ขณะที่ "หงส์แดง" ได้เฮ 80 นัด ที่เหลืออีก 44 นัดเป็นการเสมอกัน

เชลซี
- พวกเขาคว้าแชมป์ ลีก คัพ มาแล้ว 5 สมัย (ซีซั่น 1964/65, 1997/98, 2004/05, 2006/07 และ 2014/15)
- หากคว้าแชมป์ได้ เชลซี จะกลายเป็นทีมแรกของรายการนี้ ที่โค่นทีมจากลีกสูงสุดด้วยกันทุกรอบจนถึงรอบชิงฯ หลังจากที่พวกเขาฝ่าด่านคู่แข่งอย่าง แอสตัน วิลล่า, เซาธ์แฮมป์ตัน, เบรนท์ฟอร์ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาได้ในรอบก่อนหน้า
- 7 เกมหลังสุดในถ้วย ลีก คัพ ซึ่งก็รวมทั้ง 5 เกมในฤดูกาลนี้ เชลซี ไม่เคยมีสกอร์ตามหลังคู่แข่งเลย โดยหนล่าสุดที่พวกเขาโดนคู่แข่งยิงก่อน เกิดขึ้นในการแข่งขันรอบห้า เมื่อฤดูกาล 2019/20 ที่พวกเขาพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาบ้าน 1-2
- มีผู้เล่นแค่ 2 รายเท่านั้น ที่สตาร์ทเป็นตัวจริงครบทั้ง 5 นัดในศึก ลีก คัพ ฤดูกาลนี้ ซึ่งนั่นก็คือ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า และ มาล็อง ซาร์ ขณะที่ตัวดังอย่าง เมสัน เมาท์ ก็เล่นทั้ง 5 นัด แต่เป็นการสตาร์ตัวจริงแค่ 2 นัด (ลงสำรอง 3 นัด)

ลิเวอร์พูล
- "หงส์แดง" คว้าแชมป์ ลีก คัพ มาแล้ว 8 สมัย ซึ่งมากสุดเทียบเท่ากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่แชมป์ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วพอดี (ซีซั่น 2011/12) ที่พวกเขาดวลจุดโทษชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 3-2 หลังจากที่เสมอกันด้วยสกอร์ 2-2 ใน 120 นาที
- นี่จะเป็นรอบชิงฯ ถ้วย ลีก คัพ หนที่ 13 สำหรับ ลิเวอร์พูล ซึ่งมากสุดเหนือทุกทีม
- อย่างไรก็ตาม เกมรอบชิงฯ ลีก คัพ ครั้งล่าสุดของ "หงส์แดง" จบลงด้วยความปราชัย โดยพวกเขาพ่ายดวลจุดโทษต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-3 หลังเสมอกัน 1-1 ใน 120 นาที
- 4 จาก 5 เกมรอบชิงฯ ลีก คัพ หลังสุดของ ลิเวอร์พูล ต้องมีการต่อเวลาพิเศษออกไป โดยครั้งเดียวที่การแข่งขันจบลงภายใน 90 นาที เกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 2002/03 ซึ่ง "หงส์แดง" คว้าแชมป์ ด้วยการพิชิต แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0
- 5 เกมหลังสุดที่ ลิเวอร์พูล เตะที่ เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ในฐานะสนามกลาง พวกเขาโดนคู่แข่งยิงขึ้นนำก่อนตลอด ซึ่งก็รวมถึง 3 เกมในยุคกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์
- ทาคุมิ มินามิโนะ เป็นดาวซัลโวสูงสุดของ ลิเวอร์พูล ในถ้วย ลีก คัพ ฤดูกาลนี้ หลังกดไปแล้ว 4 ประตู ซึ่งเป็นรองแค่ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ (อาร์เซน่อล) กับ มาร์คุส ฟอร์ส (เบรนท์ฟอร์ด) ที่ทำไปคนละ 5 ประตู เท่านั้น

- Subinho -

สยามกีฬา