ลอนดอนเป็นสีแดง! "ปืนใหญ่" ของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า คืนฟอร์มเก่งในนัดสำคัญหลังรวมพลังเชือด เชลซี 3-1 คว้าชัยในลีกรอบ 8 เกมมีเพิ่มเป็น 17 คะแนนขยับรั้งอันดับ 14 ส่วนทาง "สิงห์บลูส์" หยุดอยู่ที่ 25 แต้มหล่นมาอยู่อันดับ 6 ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

อาร์เซน่อล ทำผลงานได้ย่ำแย่สุด ๆ หลังไม่ชนะใครมา 4 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการ โดยเกมลีกนัดล่าสุดบุกไปแพ้ให้กับ เอฟเวอร์ตัน 1-2 ส่วนผลงานในศึกคาราบาว คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศพ่ายแมนฯ ซิตี้ 1-4 ตกรอบแบบสุดช้ำ

ทางด้าน เชลซี เพิ่งปลดล็อคคว้าชัยนัดแรกในรอบ 4 เกมรวมทุกรายการ โดยเกมลีกนัดล่าสุดเปิดบ้านขย้ำ เวสต์แฮม 3-0

30 วินาทีแรก "ปืนใหญ่" ทักทายก่อน บูกาโย่ ซาก้า แทงบอลออกขวาให้ เอกตอร์ เบเยริน สอดมาตักเข้าเขตโทษไปแฉลบหัว ติอาโก้ ซิลวา เลยมาเสาไกลเข้าทาง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ตั้งเท้าแปด้วยขวาหลุดเสาแรกออกหลัง

ต่อมานาทีที่ 5 ยังคงเป็น อาร์เซน่อล ทำได้ดีกว่าคราวนี้เป็น บูกาโย่ ซาก้า ครอสบอลเข้าเขตโทษไปติด ติอาโก้ ซิลวา สกัดโดนหัว อเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ โชคดีเด้งไปเข้ามือ เอดูอาร์ เมนดี้

นาทีที่ 12 เชลซี มาได้ฟรีคิกระยะอันตรายเป็น กรานิต ชาคา ไปเข้าช้าหวดใส่ คริสเตียน พูลิซิช ร่วงลงไปและเป็น เมสัน เมาน์ท ปั่นด้วยขวาบอลโค้งชนเสาเหลี่ยมนอกหลุดออกหลังนิดเดียว

นาทีที่ 20 โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ จ่ายบอลไม่ดีไปติดบล็อค เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เด้งมาเข้าทาง ติโม แวร์เนอร์ กระชากเข้าเขตโทษก่อนดึงเข้าซ้ายซัดไปติดขา ร็อบ โฮลดิ้ง ตามมาช่วยไว้ได้ทัน

นาทีต่อมาคราวนี้เป็น รีซ เจมส์ เติมเกมรุกขึ้นมาทางขวาก่อนได้ช่องครอสเข้าเขตโทษเกือบถึง แทมมี่ อับราฮัม แต่ต้องชม ปาโบล มารี่ ยังไม่เหม่อทิ้งตัวกวาดบอลทิ้งออกหลังหวุดหวิด

"ปืนใหญ่" พลาดโอกาสทองในนาทีที่ 25 จากจังหวะชุลมุนสุดท้ายเป็น เอกตอร์ เบเยริน สอดมาฉกลุยเข้าเขตโทษก่อนถวายพานเข้าในแต่ เอมิล สมิธ โรว์ ยิงไม่โดนปล่อยบอลผ่านหน้าประตูเหลือเชื่อ

นาทีที่ 34 อาร์เซน่อล ทะยานขึ้นนำจนได้ คีแรน เทียร์นี่ย์ โชว์ลีลาพาบอลแหวกเข้าเขตโทษก่อนโดน รีซ เจมส์ ตามมาอัดร่วงลงไป ผู้ตัดสิน ไม่รอช้าชี้เป็นจุดโทษทันทีและเป็น อเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ สังหารเข้าไปไม่พลาด

ก่อนหมดเวลา 5 นาที เชลซี ลุยขึ้นมาบ้าง ติโม แวร์เนอร์ รับบอลจาก เมสัน เมาน์ท แหวกขึ้นมาได้ช่องปั่นด้วยขวาหน้าหัวกะโหลกก็ยังไม่ดีหลุดออกหลังไม่ได้ลุ้น

แต่แล้วนาทีที่ 44 เจ้าถิ่น มาบวกสกอร์เพิ่มจากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษฝั่งขวา กรานิต ชาคา วิ่งมาอัดด้วยซ้ายบอลพุ่งส่ายข้ามกำแพงไปติดปลายนิ้ว เอดูอาร์ เมนดี้ แต่ยังดีพอซุกก้นตาข่าย

หมดครึ่งเวลาแรก อาร์เซน่อล 2 เชลซี 0

เปิดฉากครึ่งหลัง เชลซี เดินเครื่องทันที คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย แต่งบอลเปิดเข้าเขตโทษเกือบหลุดมาถึง คริสเตียน พูลิซิช แต่ยังมี เอกตอร์ เบเยริน ตามมาทิ้งตัวโขกออกไปได้ทัน

แต่แล้วนาทีที่ 56 "ปืนใหญ่" ทิ้งห่างออกไปอีกจากบอลทางขวาของ เอมิล สมิธ โรว์ ฝากเข้าในให้ บูกาโย่ ซาก้า สอดมาตักเข้าเขตโทษแต่บอลลึกกลายเป็นย้อยข้ามหัว เอดูอาร์ เมนดี้ ตุงตาข่ายงามหยด

60 นาทีผ่าน เจ้าถิ่น เริ่มโชว์ของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ สอดมารับบอลในเขตโทษก่อนทิ้งตัว จักรยานอากาศ เสียดายไม่หนีตัว เอดูอาร์ เมนดี้ พุ่งมารับเอาไว้ได้

5 นาทีต่อมาจากจังหวะสวนกลับ คีแรน เทียร์นี่ย์ พาบอลกระชากขึ้นมาทางซ้ายก่อนหักเข้าในให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ตั้งป้อมแปเล็งเสาแรกแต่ไม่ผ่าน เอดูอาร์ เมนดี้ เซฟเอาไว้ได้เหลือเชื่อ

15 นาทีสุดท้ายจากลูกเตะมุมทางขวา เมสัน เมาน์ท วางบอลเข้าเขตโทษให้ ติอาโก้ ซิลวา โขกข้ามคานออกไปเหมือนเดิมโดย เชลซี ยังยิงไม่ตรงกรอบแม้แต่ครั้งเดียว

นาทีที่ 83 เจ้าถิ่น เกือบปิดกล่องจากความผิดพลาดของ เอดูอาร์ เมนดี้ ติดประมาทยกบอลไปถวายให้ อเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ ยิงสวนทันทีแต่ยังดีมาแก้ตัวปัดปลายมือเอาไว้ได้

จากจังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุมทางขวาบอลหลุดมาถึง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ วิ่งมาตะบันเต็มข้อไปชนคานก่อนชุลมุนหน้าประแนวรับ เชลซี เคลียร์ไม่ดีเข้าทาง ร็อบ โฮลดิ้ง ซัดอีกทีก็ยังติดเซฟ เอดูอาร์ เมนดี้

นาทีที่ 87 "สิงห์บลูส์" ตีไข่แตกจนได้ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ครอสบอลเข้าในให้ แทมมี่ อับราฮัม ชาร์จจ่อๆเข้าไปก่อนมีธงล้ำหน้ายกขึ้นมาโชคดี "วีเออาร์" มาตัดสินให้เป็นประตู

ช่วงทดเจ็บ เชลซี มาพลาดจังหวะสำคัญ ปาโบล มารี่ ไปหวดขา เมสัน เมาน์ท ร่วงลงไปในกรอบเขตโทษ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ให้เป็นจุดโทษทันทีแต่ เมสัน เมาน์ท ยิงไม่ดีไปติดเซฟ แบรนด์ เลโน่

จบเกม อาร์เซน่อล 3 เชลซี 1 "ปืนใหญ่" ของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า หวนคว้าชัยในลีกอีกครั้งในรอบ 8 นัดมี 17 คะแนนขยับรั้งอันดับ 14

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามตัวจริง

อาร์เซน่อล (3-4-3) : แบรนด์ เลโน่ - ร็อบ โฮลดิ้ง, ปาโบล มารี่, คีแรน เทียร์นี่ย์ - เอกตอร์ เบเยริน, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, กรานิต ชาคา, บูกาโย่ ซาก้า - เอมิล สมิธ โรว์ (โจ วิลล็อค น.65), อเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ (ชโคดราน มุสตาฟี่ น.92), กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (นิโกล่าส์ เปเป้ น.71)

ผู้จัดการทีม : มิเกล อาร์เตต้า

เชลซี (4-3-3) : เอดูอาร์ เมนดี้ - รีซ เจมส์, คูร์ท ซูม่า, ติอาโก้ ซิลวา, เบน ชิลเวลล์ - เมสัน เมาน์ท, มาเตโอ โควาซิช (จอร์จินโญ่ น.46), เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (ไค ฮาเวิร์ตซ์ น.74) - ติโม แวร์เนอร์ (คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย น.46), แทมมี่ อับราฮัม, คริสเตียน พูลิซิช

ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด

ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์

www.siamsport.co.tht