6
ธ.ค.
โดนก่อนแล้วไง! เชลซีเร่งเครื่องถลุงลีดส์ แซงหงส์-ไก่นำฝูงชั่วคราว
"สิงห์บลูส์" สร้างสถิติไร้พ่าย 13 เกมติดทุกรายการ หลังแซงกลับมาเอาชนะน้องใหม่ ลีดส์ ยูไนเต็ด อย่างสนุก 3-1 คว้าสามแต้มล้ำค่าแซง ลิเวอร์พูล และสเปอร์ส ขึ้นนำจ่าฝูงชั่วคราว เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
สตาร์ทครึ่งแรกมาได้แค่นาทีเดียว "สิงห์บลูส์" เกือบชิงขึ้นนำอย่างรวดเร็วหลัง ติอาโก้ ซิลวา เปิดบอลยาวให้ ฮาคิม ซิเย็ค หลุดเข้าไปซัดมุมแคบติดขา อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ออกหลัง
และจากจังหวะเตะมุมถัดมา เมสัน เมาน์ท เปิดโค้งไปเสาแรกให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เทกตัวลอยมาโขกบอลเข้าข้างตาข่าย
แต่กลายเป็น "ยูงทอง" ที่ทำเอาแฟนเจ้าบ้านต้องเงียบกริบหลังโอกาสยิงหนแรกเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 บอลสวนกลับจากหน้าบ้านตัวเอง คัลวิน ฟิลลิปส์ เปิดตัดหลังแนวรับไปที่ว่างให้ แพทริก แบมฟอร์ด หลุดเข้าไปแตะบอลหลบ เมนดี้ ก่อนยิงด้วยซ้ายเข้าไป
นาที 9 ลีดส์ ต้องเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วหลัง โรบิน คอช เซ็นเตอร์แบ็กเล่นต่อไม่ไหวมีอาการเจ็บต้องส่ง ดีเอโก้ ยอเรนเต้ ลงเล่นแทน
ถัดมานาทีที่ 10 เชลซี พลาดโอกาสไล่ตีเสมออย่างน่าเสียดาย บอลจากลูกเตะมุม เมสัน เมาน์ท เปิดมาให้ ชิรูด์ เช็ดไปเสาไกลบอล ติโม แวร์เนอร์ ตามเข้าชาร์จแต่กลายเป็นจับบอล แม้จะซ้ำอีกครั้งแต่ยังไปชนคานอย่างน่าผิดหวัง
นาที 22 อิลล็อง เมสลิเย่ร์ นายด่านยูงทองเกือบพลาด หลังออกบอลเลียดหน้าประตู ก่อนโดน ชิรูด์ วิ่งมาตัดบอล ทว่าอดีตแข้งอาร์เซน่อลดันยิงด้วยซ้ายหลุดกรอบออกไปอย่างน่าผิดหวัง
นาที 27 สาวกสิงห์บลูส์ได้เฮลั่นกันบ้าง เมื่อเจ้าถิ่นมาไล่ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ บอลจากด้านข้าง รีซ เจมส์ ครอสเร็วไปเสาแรกให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ พุ่งมาชาร์จด้วยขวาส่งบอลเบียดเสาแรกเข้าไป
นาที 30 แฟร้งค์ แลมพาร์ด ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกเหมือนกัน เมื่อ ฮาคิม ซิเย็ค เจ็บกล้ามเนื้อเล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง คริสเตียน พูลิซิช ลงมาเล่นแทน
ท้ายครึ่งแรก นาที 41 ติโม แวร์เนอร์ กระชากเข้าไปในกรอบก่อนซัดกึ่งยิงกึ่งผ่านไปเสาแรกติด สจ๊วร์ต ดัลลัส ออกหลัง
จบครึ่งแรก เชลซี เสมอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-1
ครึ่งหลัง เจ้าถิ่นเร่งเกมกดดันตั้งแต่ต้น นาที 54 เชลซี เกือบได้ลุ้นแซงขึ้นนำหลังได้ฟรีคิกทางด้านซ้าย รีซ เจมส์ เปิดไปเสาแรก ไค ฮาแวร์ทซ์ โฉบมาโหม่งบอลหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว
นาที 57 "ยูงทอง" ได้ลูกเตะมุมทางด้านซ้าย คัลวิน ฟิลลิปส์ เปิดมาแถวสองให้ ราฟินญ่า วิ่งมาซัดแบบไม่จับบอลพุ่งแรงไปติด ติอาโก้ ซิลวา แม้ ราฟินญ่า จะตามซ้ำแต่บอลก็เหินโด่งข้ามคานออกไป
นาที 60 ติโม แวร์เนอร์ หลุดเข้าไปซัดมุมแคบติดเซฟ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ แม้หัวหอกทีมชาติเยอรมันจะตามซ้ำอีกครั้ง เมสลิเย่ร์ ก็ยังไวปัดออกไปได้อีก แต่บอลยังไม่พ้นอันตราย เมสัน เมาน์ท วิ่งมาอัดไปแฉลบขาแนวรรับยูงทองออกหลัง
และจากลูกเตะมุม ในนาที 61 "สิงห์บลูส์" มาแซงขึ้นนำ 2-1 จนได้ เมสัน เมาน์ท เปิดบอลโด่งมาในกรอบ คูร์ท ซูม่า หนีตัวประกบทะยานโขกกดลงพื้นตุงตาข่าย เป็นประตูที่ 4 ในฤดูกาลนี้เท่ากับ ติโม แวร์เนอร์ ดาวซัลโวของทีม
นาที 76 โอกาสอีกครั้งของ ติโม แวร์เนอร์ หลังวิ่งไปรับบอลจาก เมสัน เมาน์ท ก่อนซัดด้วยขวาไปติดเซฟของ อิลล็อง เมสลิเย่ร์
ช่วงทดเจ็บ นาที 90+3 สิงหืบลูส์มาได้ประตูนำห่าง 3-1 จากจังหวะสวนกลับ ติโม แวร์เนอร์ หลุดเข้าไปในกรอบ แล้วปาดเลียดมาหน้าประตูให้ คริสเตียน พูลิซิช สอดมายิงเข้าไปไม่พลาด
จบเกม เชลซี แซงคว้าชัยเหนือ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-1 เก็บสามแต้มสำคัญแซง "หงส์แดง" และไก่เดือยทอง ขึ้นนำจ่าฝูงชั่วคราว โดยมี 22 คะแนน ส่วนลีดส์ รั้งอันดับ 12 มีอยู่ 14 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี (4-3-3) : เอดูอาร์ เมนดี้ - รีซ เจมส์, คูร์ท ซูม่า, ติอาโก้ ซิลวา, เบน ชิลเวลล์ - ไค ฮาแวร์ทซ์ (มัตเตโอ โควาซิช น.67), เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เมสัน เมาน์ท - ฮาคิม ซิเย็ค (คริสเตียน พูลิซิช น.30), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (แทมมี่ อับราฮัม น.79), ติโม แวร์เนอร์
ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด
ลีดส์ ยูไนเต็ด (4-4-1-1) : อิลล็อง เมสลิเย่ร์ - ลุค อายลิ่ง, โรบิน คอช (ดีเอโก้ ยอเรนเต้ น.9), เลียม คูเปอร์, สจ๊วร์ต ดัลลัส - ราฟินญ่า, มาร์เตอุสซ์ คลิช, คัลวิน ฟิลลิปส์, เอซยาน อลิอออสกี้ (โรดริโก้ โมเรโน่ น.69) - แจ็ค แฮร์ริสัน (เอียน โพเวด้า น.58) - แพทริค แบมฟอร์ด
ผู้จัดการทีม : มาร์เซโล่ บิเอลซ่า
ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์
www.siamsport.co.th