17
มิ.ย.
ใครได้ลุ้นมากสุด? วิเคราะห์6ทีมพรีเมียร์ลุ้นพื้นที่ลุยชปล.ช่วงโค้งสุดท้าย
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019/20 เตรียมกลับมาลงฟาดแข้งอีกครั้งใน โปรเจ็กต์ รีสตาร์ท ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป แม้การลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้จะใกล้ได้บทสรุปเต็มที หลังจาก ลิเวอร์พูล นำโด่งเป็นจ่าฝูงทำแต้มทิ้งห่าง แมนฯ ซิตี้ รองจ่าฝูงถึง 25 แต้ม ทำให้พวกเขาต้องการเก็บชัยชนะอีกแค่ 2 นัดจาก 9 เกมที่เหลือก็จะเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ลีกอย่างเป็นทางการในรอบ 30 ปีทันที
อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งสิ่งที่ได้รับการจับตามอง และยังลุ้นขับเคี่ยวกันสนุกไม่แพ้กันคือการลุ้นพื้นที่ไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า หลังในเวลานี้มี 6 ทีมที่ถูกยกให้เป็นแคนดิเดตร่วมกันในการจับจองโควต้าสุดท้ายในการจบที่ 4 ของตารางในฤดูกาลนี้
ส่วน 6 ทีมดังกล่าวนั้นจะมีใครบ้าง ที่มีโอกาสคว้าตั๋วใบสุดท้ายมากที่สุดไปดูบทวิเคราะห์กันเลย
- เชลซี (อันดับ 4, แข่ง 29 เกม, 48 แต้ม)
ความหวังของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่จะพา เชลซี คว้าตั๋วไปลุยถ้วย "บิ๊กเอียร์" ของยุโรปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญของเจ้าตัวในการเข้ามาคุมทีมเป็นปีแรกด้วยขุมกำลังที่จำกัด หลังถูกแบนห้ามลงทะเบียนนักเตะใหม่เข้ามาเสิรมทัพเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทำให้ต้องใช้ผู้เล่นดาวรุ่งที่มีอยู่เป็นแกนหลักแทน
กระนั้นก็ดีผลงานของทัพ "สิงห์บลูส์" ทำได้ดีเกินคาด โดยก่อนจะต้องพักเบรกหนีโควิด-19 ไปนั้นพวกเขาปิดท้ายด้วยการถล่ม เอฟเวอร์ตัน 4-0 และแม้จะกำลังโชว์ฟอร์มได้ดี แต่การพักเบรกหนีโควิด-19 ไปราว 3 เดือนนั้นอาจจะเป็นการส่งผลดีต่อ เชลซี พอสมควรเพราะพวกเขาต้องเสียแกนหลักไปจากอาการบาดเจ็บโดยเฉพาะ แทมมี่ อับราฮัม, คริสเตียน พูลิซิช และ ฟิกาโย่ โทโมริ ซึ่งทั้งหมดหายกลับมาลงซ็อมได้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแน่นอนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมเพิ่มโอกาสมากขึ้นในการลุ้นแย่งพื้นที่ลุยชปล. โดยจะมีเพียง คัลลั่ม ฮัสสัน โอดอย เท่านั้น ที่ยังต้องพัก
เชลซี มีโปรแกรมกลับมาแข่งขันนัดแรกด้วยการบุกเยือน แอสตัน วิลล่า ซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้สถานเดียว
โปรแกรมหนักที่เหลือ : แมนฯ ซิตี้ (เหย้า), ลิเวอร์พูล (เยือน), วูล์ฟสแฮมป์ตัน (เหย้า)
- แมนฯ ยูไนเต็ด (อันดับ 5, แข่ง 29 เกม, 45 แต้ม)
การที่ลีกต้องหยุดชะงักไปราว 3 เดือนจากไวรัสโควิด-19 แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่น่าจะรู้สึกผิดหวังมากที่สุดแล้ว เพราะว่าพวกเขากำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมไร้พ่ายมา 5 เกมหลังสุดในลีก แบ่งเป็นชนะ 3 เกม รวมไปถึงฟอร์มของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่กำลังเข้าฝักทำไปแล้ว 2 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 5 เกม
อย่างไรก็ตามการที่ลีกต้องหยุดพักไปก็ยังมีเรื่องดีอยู่บ้าง เมื่อจะทำให้ "ปีศาจแดง" ได้ มาคัส แรฟอร์ด ดาวยิงตัวเก่งกลับสู่ทีมอีกครั้งหลังเจ็บหนักต้องพักยาว รวมถึง ปอล ป็อกบา ที่สลัดอาการเจ็บกลับมาเช่นกัน ส่วนแข้งที่บาดเจ็บและยังไม่สามารถใช้งานได้มีเพียง ฟิล โจนส์ คนเดียวเท่านั้นซึ่งไม่ส่งผลเสียหายอะไรต่อทีมอยู่แล้ว
แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องฝ่าด่านหินในเกมแรกทันทีด้วยการไปเยือน ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ในคืนวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นเกมสำคัญสุดๆเพราะหากเก็บ 3 แต้มได้จะขึ้นไปมีแต้มเท่ากับ เชลซี อันดับ 4 ชั่วคราว และเกมที่เหลือต่อจากนี้หากไม่นับเกมกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ เลสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาก็แทบไม่มีงานยากอะไรแล้ว
โปรแกรมหนักที่เหลือ : สเปอร์ส (เยือน), เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (เหย้า), เลสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)
- วูล์ฟแฮมป์ตัน (อันดับ 6, แข่ง 29 เกม 43 แต้ม)
ทีมของกุนซือ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต เป็นอีกหนึ่งแคนดิเดตสำคัญที่มีลุ้นสอดแทรกมาคว้าตั๋วลุยชปล.ซีซั่นหน้า หลังจากฤดูกาลนี้พวกเขาได้ตั๋วไปลุยศึกยูโรปาลีกได้สำเร็จ
แม้ทีม "หมาป่า" จะมีโปรแกรมหนักเพิ่มขึ้นจากการต้องลุยฟุตบอลยุโรป แต่ผลงานในลีกของพวกเขานั้นก็ไม่ได้ดร็อปลงไปแถมเอาชนะทีมยักษ์ใหญ่มาแล้วหลายทีมในซีซั่นนี้ ทั้ง แมนฯ ซิตี้ 2 นัด และ สเปอร์ส ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่สร้างความกังวลให้กับทีมเหล่านี้ได้พอสมควร
วูล์ฟสฯ มีคิวกลับมาลงเล่นนัดแรกด้วยการบุกไปดเยือน เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ที่กำลังลุ้นหนีตกชั้น
โปรแกรมหนักที่เหลือ : อาร์เซน่อล (เหย้า), เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (เยือน), เชลซี (เยือน)
- เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (อันดับ 7, แข่ง 28 เกม, 43 แต้ม)
แม้ทีมของกุนซือ คริส ไวล์เดอร์ เพิ่งเลื่อนชั้นกลับขึ้นสู่ลีกสูงสุดมาเพียงฤดูกาลแรก แต่กลับเป็นทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์สุดๆ หลังทำผลงานยอดเยี่ยมจนขึ้นมารั้งที่ 7 ของตารางมีลุ้นคว้าตั๋วไปลุยฟุตบอลยุโรปได้ทันที
แน่นอนปัจจัยสำคัญของทืมชุดนี้คือการมีเกมรับที่เหนียวแน่นสุดๆ เสียประตูน้อยสุดเป็นอันดับสองของลีกต่อจาก ลิเวอร์พูล เท่านั้น โดยแข้งคนสำคัญต้องยกให้กับ ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูตัวยืมจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ที่โชว์ฟอร์มโดดเด่น
ก่อนที่ลีกจะพักเบรกไปนั้นทีม "ดาบคู่" กำลังอยู่ในฟอร์มยอดเยี่ยม เก็บชัยได้ถึง 3 จาก 4 เกมหลังสุด โดยนัดแรกของการคัมแบ็ก เชฟฟิลด์ มีคิวบุกเยือน แอสตัน วิลล่า ซึ่งเป็นเกมตกค้าง และหากพวกเขาเก็บ 3 แต้มได้จะแซง แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นไปยึดที่ 5 ของตารางทันที
โปรแกรมหนักที่เหลือ : แมนฯ ยูไนเต็ด (เยือน), สเปอร์ส (เหย้า), เชลซี (เหย้า)
- ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ (อันดับ 8, 29 เกม, 41 แต้ม)
หลังทีมของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในระหว่างปลายเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ จากการเก็บชัย 3 เกมรวดในลีก ซึ่งหลังจากนั้นพวกเขาก็สะกดคำว่าชนะไม่เป็น 6 เกมติดต่อกันทุกรายการ โดยเกมล่าสุดคือการบุกแพ้ แอร์เบ ไลป์ซิก ยับเยิน 0-3 กระเด็นตกรอบศึกชปล.เรียบร้อย ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของทีมอย่างชัดเจน ก่อนมีคิวเปิดบ้านรับมือ แมนฯ ยูไนเต็ด
จากผลงานดังกล่าวทำให้ "ไก่เดือยทอง" ต้องลุ้นเหนื่อยในการคว้าตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า จากการรั้งที่ 8 ของตาราง มีแต้มตามอันดับ 5 อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด 4 แต้ม แม้จะมีระยะห่างไม่มากนัก แต่ดูจากฟอร์ม และสภาพทีมตอนนี้คงเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะแย่งพื้นที่กับแคนดิเดตที่เหลืออย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด หรือ แม้ผู้ตามอย่าง อาร์เซน่อล
แน่นอนว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมผลงานย่ำแย่หนักคือนักเตะตัวหลักบาดเจ็บไปตามๆกันเริ่มตั้งแต่ แฮร์รี่ เคน, มุสซ่า ซิสโซโก้, ซน เฮือง มิน และ สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ที่บางรายได้รับการคาดหมายว่าจะต้องหมดสิทธิ์ลงเล่นในฤดูกาลนี้ไปแล้ว และการกลับมาฟาดแข้งอีกครั้งจะทำให้ "ไก่เดือยทอง" กลับมามีสภาพทีมที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเป็นการหยุดพักเพื่อให้กลับมาคืนฟอร์มเก่งลุ้นคว้าตั๋วลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้ โดยจะประเดิมด้วยการเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด
โปรแกรมหนักที่เหลือ : แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า), เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (เยือน), อาร์เซน่อล (เหย้า)
อาร์เซน่อล (อันดับ 9, 28 เกม, 41 แต้ม)
ทีมของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า มีผลงานที่กระท่อนกระแท่นในฤดูกาลนี้ และมีโอกาสจะชวดไปลุยถ้วยใบโตของยุโรปอีกหนึ่งปี หลังหล่นมารั้งที่ 9 ของตาราง
อย่างไรก็ดีแม้ "เดอะ กันเนอร์ส" จะมีแต้มตาม เชลซี อันดับ 4 ถึง 8 แต้ม แต่พวกเขายังคงถูกยกให้เป็นหนึ่งในแคนดิเดตสำคัญในการแย่งตั๋วลุยชปล.ใบสุดท้าย หลังจากกลับมาอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมก่อนที่ลีกจะพักเบรกไปด้วยการเก็บชัยมา 3 เกมรวด และไม่แพ้ใคร 8 เกมหลังสุด
อาร์เซน่อล จะกลับมาลงเล่นเป็นเกมแรกด้วยการเจองานหนักกับ แมนฯ ซิตี้ ในนัดตกค้าง ส่วนโปรแกรมที่เหลือนั้นก็ยังมีงานหินอย่าง วูล์ฟสฯ, สเปอร์ส, เลสเตอร์ และ ลิเวอร์พูล ส่วนโอกาสที่ดีที่สุดของพวกเขาที่จะเก็บ 3 คะแนนคือเกมกับ ไบรท์ตัน, เซาธ์แฮมป์ตัน, นอริช, แอสตัน วิลล่า และ วัตฟอร์ด แต่ถึงจะชนะได้ทั้ง 5 เกมดังกล่าวก็อาจจะไม่เพียงพอให้พวกเขาจบอันดับ 4 ได้สำเร็จ
โปรแกรมหนักที่เหลือ : แมนฯ ซิตี้ (เยือน), วูล์ฟส์ (เยือน), สเปอร์ส (เยือน), ลิเวอร์พูล (เหย้า)
www.siamsport.co.th
|
|
|