CHELSEA THAILAND FANCLUB
HEADLINE NEWS
ซาร์รี่เก้าอี้ร้อน! ป็อกบาโชว์-แมนยูคืนฟอร์มบุกเชือดเชลซี ลิ่ว8ทีมเอฟเอ คัพ
5
เอฟเอคัพเดือด!แมนยูจัด "อเล็กซิส" ยิง,เชลซีมี "อาซาร์" ป่วนซัด
42
วิเคราะห์บอล เอฟเอ คัพ : เชลซี -vs- แมนฯยู
36
กูร์ตัวส์ ย้ำ อยากให้ อาซาร์ มาอยู่ด้วยที่ เรอัล มาดริด
22
วงในแฉเคฮิลล์เงาจางไร้ตัวตนในสายตาลุง
24
หน้าแรก
ข่าว
โปรแกรมแข่งขัน
พรีเมียร์ลีก
ทีม
รูปภาพ
วีดีโอ
ติดต่อเรา
เมาริซิโอ ซาร์รี่
ผู้จัดการทีม
วันเกิด
10 มกราคม 1959 (60 ปี)
สถานที่เกิด
อิตาลี
เมาริซิโอ ซาร์รี่ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมเชลซีในเดือนกรกฎาคม 2018 โดยย้ายมาสแตมฟอร์ด บริดจ์หลังจากที่ประสบความสำเร็จที่นาโปลีมาสามปี
ในช่วงเวลาที่อยู่ที่นั่น กุนซือชาวอิตาเลี่ยนวัย 59 ปี พลิกชะตาสโมสรและพาทีมกลับไปเล่นในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกได้สำเร็จ พร้อมกับสร้างการเล่นฟุตบอลที่เน้นเกมรุกสุดดุดัน
ในช่วงเวลาสามปีที่คุมทีม นาโปลีครองอันดับสองของลีก และฤดูกาลที่ผ่านมาพวกเขาก็มีคะแนนสูงเป็นสถิติใหม่สำหรับทีมอันดับสอง และอันดับสาม เมื่อปี 2017 เขาคว้ารางวัลโค้ชยอดเยี่ยมของเซเรีย อา ได้ด้วย
ซาร์รี่เซ็นสัญญากับสโมสรเป็นระยะเวลา 3 ปี กล่าวว่า : ผมมีความสุขมากที่ได้มาอยู่กับเชลซีและพรีเมียร์ลีก มันเป็นความท้าทายครั้งใหม่ในอาชีพของผม
ผมตั้งตารอที่จะทำงานและพบปะกับนักเตะของผมในวันจันทร์ก่อนที่จะไปออสเตรเลีย เพื่อให้รู้เกี่ยวกับนักเตะในทีมและเริ่มต้นเกมการแข่งขันของพวกเรา
ผมหวังว่า พวกเราจะสามารถสร้างฟุตบอลที่น่าตื่นเต้นให้กับแฟนบอล และเราก็จะต่อสู้เพื่อคว้าถ้วยแชมป์จนจบฤดูกาลด้วย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สโมสรสมควรได้รับ
มาริน่า กรานอฟสกาย่า กล่าวว่า เราดีใจที่ได้ต้อนรับเมาริซิโอ้เข้ามาคุมทีม และกำลังตั้งตารอคอยที่จะได้เห็นการนำหลักการเล่นฟุตบอลของเขามาใช้กับเชลซีอยู่
ทีมนาโปลีของเมาริซิโอเล่นฟุตบอลกันได้น่าตื่นเต้นมากๆ ทีมหนึ่งของยุโรป สร้างความประทับใจจากการเล่นเกมรุกที่ดุดันและคล่องตัว วิธีการคุมทีมของเขาก็ช่วยพัฒนานักเตะได้อย่างมากเช่นกัน
เขามีประสบการณ์มากมายในเซเรีย อา และในแชมป์เปี้ยนส์ ลีก เรารู้ดีว่าเขามีความสุขกับโอกาสที่จะได้ทำงานในพรีเมียร์ลีก
นอกจากทีมที่พัฒนาขึ้นแล้ว การคุมทีมของซาร์รี่ที่นาโปลีจะถูกจดจำจากศักยภาพการเล่นของนาโปลีด้วย เขาได้รับคำชมมากมายจากความสามารถในการปรับโครงสร้างทีม ดึงเอาความสามารถของทีม และใช้ประโยชน์จากพรสวรรค์ของนักเตะรุ่นเยาว์ได้ดี ซึ่งทำให้เกิดผลดีต่อทีมอย่างมาก
เกิดที่บักโนลี่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเนเปิลส์ ซาร์รี่เริ่มต้นการคุมทีมโดยเป็นโค้ชพาร์ททามในระหว่างที่ทำงานเป็นนายธนาคาร หลังจากที่เล่นในระดับมือสมัครเล่นอยู่เป็นระยะเวลาสั้นๆ
ในปี 2000 เขารับหน้าที่ทำงานในทีมเอซี ซานซูวิโน่ ซึ่งเป็นทีมในดิวิชั่น 6 ของฟุตบอลอิตาลี เขาบอกกับสโมสรว่าหากเขาล้มเหลวในการคว้าแชมป์ลีกเขาจะลาออกเอง แต่ทีมของเขาก็คว้าแชมป์ดิวิชั่นได้สำเร็จ
ในช่วงเวลาที่อยู่กับซานซูวิโน่นี้เองที่ซาร์รี่ได้ฉายาว่า มิสเตอร์ 33 หลังจากที่เตรียมแผนการเล่นลูกตั้งเตะไว้ถึง 33 แบบ เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงการเตรียมพร้อมด้านแท็คติก และการใส่ใจรายละเอียด
หลังจากนั้นเขาก็ได้ไปทำงานร่วมกับทีมในลีกล่างอีกมากมาย จนกระทั่งย้ายมาคุมทีมเปสคาร่า ที่อยู่ในเซเรีย บี ต่อด้วยอาเรซโซ่ ซึ่งทีมเจอปัญหาในตอนที่เขาเข้ามาคุมทีมอยู่บ้าง และต้องตกชั้นไป แต่ซาร์รี่ก็ทำให้พวกเขามีช่วงเวลาที่ดีด้วยการเอาชนะเอซี มิลานได้ด้วยสกอร์ 1-0 ในรายการอิตาเลียน คัพ
ในปี 2011 เขาเข้าคุมทีมซอร์เรนโต้ และที่นั่นเองที่เขาสามารถใช้หลักการเล่นฟุตบอลของตัวเอง ทำให้ทีมกลับไปเล่นในเซเรีย บี ได้สำเร็จในปีต่อมา ครั้งนี้คือทีมเอ็มโปลี หลังจากที่พลาดเลื่อนชั้นในฤดูกาล 2013/14 ทีมของซาร์รี่ก็ไต่ขึ้นมาอยู่ในลีกสูงสุดได้สำเร็จในฤดูกาลต่อมา
หลังจากที่ขึ้นมาแล้ว คนนอกหลายๆ คนก็รู้สึกว่าเอ็มโปลีคงจะตกชั้นกลับไปทันที แต่ซาร์รี่ก็รู้ว่าทีมต้องทำอะไรเพื่อที่จะอยู่รอด เขาสร้างทีมรุ่นเยาว์ในแบบที่คู่แข่งโค่นได้ยาก ในขณะเดียวกันก็มีสไตล์การเล่นที่ไหลลื่น พวกเขาจบฤดูกาลแรกในลีกสูงสุดที่อันดับ 15 ทั้งยังเอาชนะทีมอย่างลาซิโอ้และนาโปลีได้ด้วย ก่อนที่เขาจะย้ายไปนาโปลีในช่วงซัมเมอร์ปีนั้นเพื่อแทนที่ราฟาเอล เบนิเตซ
ซาร์รี่พัฒนาทีมนาโปลีที่อยู่อันดับ 5 ในปีก่อนหน้านั้นมาอยู่อันดับที่สองได้ในปีแรกที่เข้าไปคุม เสียไปเพียง 19 คะแนนและทำประตูรวม 80 ประตูในลีก ทีมของเขาเล่นโดยใช้ฝีเท้าที่รวดเร็ว สไตล์การเล่นที่ไหลลื่น เป็นที่ยอมรับกันทั้งในและนอกสโมสร
การย้ายทีมของกอนซาโล่ อิกวาอินที่ย้ายไปยูเวนตุสในปี 2016 ทำให้การคุมทีมของซาร์รี่ฉายแสงมากขึ้นไปอีก แทนที่จะไปหานักเตะในตลาด เขาเลือกที่จะค้นในทีมแล้วเลือกใช้นักเตะที่มีอยู่มาเล่นในบทบาทที่แตกต่างไปจากก่อนหน้านั้น แล้วทุกอย่างก็ออกมาเยี่ยมยอดมาก
การตัดสินใจเอาดรีส์ เมอร์เทนที่ปกติเล่นเป็นปีกข้างมาเป็นสไตรค์เกอร์ และสลับเอามาเร็ค ฮัมซิคไปเล่นกลางซ้าย ทำให้เขามีผลงานที่ดีขึ้น และทีมก็พัฒนาขึ้นอย่างมากด้วย
พัฒนาการรอบด้านของกองหลังอย่าง ฟาอุซซี่ กัวลัม, เอซีด ไฮซาจ และคาลิดู คูลิบาลี่ เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการโค้ชของซาร์รี่เมื่ออยู่ในสนามซ้อม ขณะที่จอร์จินโญ่ ผู้มีส่วนสำคัญในทีมนาโปลีเองก็เป็นหนึ่งในกองกลางที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดในยุโรป ขณะที่ในแดนหน้า ทั้งโลเรนโซ่ และโฆเซ่ กาเยฆ่อนก็เล่นประสานกับเมอร์เทนส์ได้ดี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือชาวอิตาเลี่ยน
ฤดูกาลที่แล้ว นาโปลีพลาดแชมป์เซเรีย อา และจบที่อันดับสอง แต่ก็มีช่วงเวลาที่น่าจดจำมากมาย อย่างเกมที่ชนะลาซิโอ้ 4-1 และชนะเกมเยือนยูเวนตุส 1-0
ซาร์รี่ชอบให้ทีมเขาเล่นฟุตบอลสไตล์คล่องตัว โฟกัสที่การจ่ายบอลเร็ว แม้แต่ในตำแหน่งลึก และพยายามครองบอลไว้ตลอด ทำให้นักเตะคิดล่วงหน้าอยู่เสมอ
เขาเป็นกุนซือชาวอิตาเลี่ยนคนที่ 6 ที่มาคุมทีมเชลซี ต่อจากจานลูก้า วิอัลลี่, คลอดิโอ รานิเอรี่, คาร์โล อันเชล็อตติ, โรแบร์โต้ ดิ มัตติโอ้ และอันโตนิโอ คอนเต้
CHELSEA THAILAND FANCLUB
เวบไซต์สำหรับคอบอลเชลซีตัวจริง
LINK PARNERS
Liverpoolfc.in.th
Mancitythailand.com
Coreball.com
© 2018 Chelseafc.in.th All Rights Reserved.